เดือนแห่งความรัก
เทศกาลวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day
วันวาเลนไทน์ เดือนกุมภาพันธ์
เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยการแสดงถึงความรัก
ความห่วงใยถึงคนที่เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลก
ว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์
เป็นวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ (Valentine’s
Day) อันว่าความรักนั้น เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาช้านาน
และมนุษย์ทุกคนล้วนมีความรักอยู่ภายในใจมากหรือน้อยแตกต่างกันไป
อารมณ์รัก ความรักในวันวาเลนไทน์
อารมณ์รัก
ศัพท์ทางบาลีใช้คำว่า สิเน่หา แปลเป็นไทยว่าเสน่ห์ๆ บาลีสิเน่หา
ถ้าใจเกาะอารมณ์นี้เมื่อไหร่ มันจะคล้ายๆ ลิงติดตัง เราเคยรู้จักลิงติดตัง
ถ้าคนสมัยก่อนจะนึกออกนะ เวลาเขาจะจับลิงป่า เขาจะเอาตังคือน้ำมันเคี่ยวจนข้นเหนียวๆ
ยางไม้ จนเหนียว เหมือนกับกาวเหนียว แล้วก็ไปวางเอาไว้ โดยลิงมันจะชอบเลียนแบบคน
มันจะแอบดูว่าคนทำยังไง เขาก็จะวางไว้เสร็จเรียบร้อยก็จะทำเป็นเอามือไปจับๆ แตะๆ
แล้วเดี๋ยวซักพักคนก็เดินไป พอคนเดินไป
ลิงมันเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นคนแล้วมันจะเริ่มไต่ต้นไม้ลงมา
ต้นมะพร้าวลงมาถึงมันก็มาลองแตะดู พอมันแตะมือก็ติดดึงไม่ออก
มันก็เอามืออีกมือหนึ่งมายัน เพื่อ จะยันดึงมือแรกออก แต่กลับติดทั้งสองมือ
เอาขาช่วยอีกขามาช่วยยันขาที่ 3 อยู่อีก เอาขาที่ 4 มายัน 4
ขาอยู่หมดเลยเอาหัวไปดัน ปรากฏว่าทั้ง 2 แขน 2 ขาและ 2 มือ 2 เท้า
แล้วก็หัวติดจุกอยู่ตรงนั้นเอง ชาวบ้านก็ออกมาจับหิ้วไป
ใส่ปลอกคอไปล่ามโซ่เป็นลิงเลี้ยงสบายไปเลย นี่แหละคือลิงติดตัง
อารมณ์ของใจเหมือนกัน ปกติใจคนเรามันจะเพลิดเพลินในอารมณ์ต่างๆ
เดี๋ยวคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้เปลี่ยนไปเรื่อยๆนี่ใช่ไหม
แต่พอเจออารมณ์รักเมื่อไหร่ ไปถามหนุ่มถามสาวดูจะรู้ดีเดียวกลายเป็นลิงติดตัง
หลับตาลืมตาฝ่ายหนุ่มเห็นแต่หน้าสาวลอยมา
ฝ่ายสาวเห็นแต่หน้าหนุ่มลอยมาคิดเรื่องอื่นไม่ออกแล้วดูไปที่ไหนก็เห็นแต่หน้าเขาลอยมาใจมันหมกหม่น
วนอยู่กับอารมณ์ สิเน่หา แปลว่า ยางเหนียว ให้เรารู้กันว่าเรื่องความรักอารมณ์
สิเน่หาไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นเราเองระวังว่า
อย่าให้เป็นลิงติดตังเสร็จแล้วก็ถูกจูงไปในทางที่ไม่ดีได้ก็แล้วกัน - ข้อคิดดี -
ดี เรื่องความรักในวันวาเลนไทน์
L ตัวแรก
น่าจะหมายถึง Lake of sorrow
ทะเลสาบแห่งความเศร้าโศก
O ตัวที่สอง น่าจะหมายถึง Ocean of tear ห้วงทะเลแห่งน้ำตา
V ตัวที่สาม น่าจะหมายถึง Vagen of
death หุบเขาแห่งความตาย
E ตัวที่สี่ น่าจะหมายถึง End of
life จุดจบของชีวิต
ถ้าหากความรักมีความหมายตามแบบการผสมอักษรดัง 4 ตัวข้างต้นนั้น
ความรักจะเป็นสิ่งสวยงามได้จริงหรือ เพราะความหมายของคำว่า LOVE นั้นก็บอกอยู่ว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งสวยงามเลยซักเท่าใด
แต่ในทางพระพุทธศาสนาแล้วมีหลักคำสอนที่สำคัญประการหนึ่งเกี๋ยวกับความรัก
นั้นคือหลักความเมตตา หรือความรักความปรารถนาดีต่อคนอื่น
หรือในความหมายที่กว้างออกไป คือความรักที่มีต่อมนุษย์ด้วยกัน
ตลอดถึงสรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด
แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงการเกิดของความรักไว้หลายนัยด้วยกัน
แต่ในที่นี้ขอนำมากล่าวเพียง 2 ประการ คือ
1. ปุพเพสันนิวาส การอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ
คือการที่เคยอยู่ร่วมกันมา เคยคบหาสนิทสนมชอบพออัธยาศัยกันมา หรือเคยเลี้ยงดูกันมา
เคยทำบุญเกื้อหนุนกัน เมื่อมาพบกันในชาตินี้ แม้ในคราวแรกพบก็เกิดความนิยมชมชอบรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว
หรือที่เรียกว่า "รักแรกพบ" นั้นเอง
โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมจึงนิยมชมชอบบุคคลผู้นั้นอย่างจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเห็น
2. การช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชาติปัจจุบัน เป็นเหตุผลที่ชัดเจนอยู่ในตัว
คือการเกื้อกูลกันในปัจจุบันนั้นคือทำให้เกิดความสนิทสนมรักใคร่ไว้วางใจใน
ฐานะเป็นกัลยาณมิตร คือการแสดงออกในรูปของการอุปการะร่วมสุขร่วมทุกข์แนะนำประโยชน์
และมีความรักใคร่ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน จึงเกิดความรัก ความเมตตาต่อกันขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น